นโยบายสิ่งแวดล้อม     
   
           
          บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อม ในปัจจุบันที่นับว่ามีปัญหาร้ายแรง เข้าขั้นวิกฤต ซึ่งส่งผลกระทบการดำเนินงานจัดการกับผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ที่มาจากการดำเนินธุรกิจต่อคุณภาพชีวิต ของคนในสังคม และทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด บริษัทฯ จึงกำหนดนโยบายการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เป็นแนวทาง  ของบริษัทฯ และเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืน
 

การจัดการก๊าซเรือนกระจก     
 
วัตถุประสงค์
          เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกะจกอย่างต่อเนื่องร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงต่อกิจกรรมทางธุรกิจ แสดงการมีส่วนร่วมในการที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี 2573 (ค.ศ.2030) ตามแนวทางของสหประชาชาติ
เป้าหมาย 
           2573 : Carbon Neutral (2030)
           2593 : Net Zero (2050)
 
          ในการจัดการก๊าซเรือนกระจกเพื่อมุ่งสู่ Net Zero ในปี 2593 (2050) ตามความร่วมมือของสหประชาติจำเป็นที่จะต้องทราบแหล่งปล่อยก๊าซจากการดำเนินธุรกิจ เพื่อใช้เป็นฐานในการวางแผนจัดการแหล่งปล่อย เพื่อลดผลกระทบที่มีต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น TRUBB จึงได้ระบุโครงการสำคัญที่ต้องจัดการเพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายนี้ในอนาคต
   

 
ผลการดำเนินงานการขอรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร ปี 2566
 
Scope1 Scope 2 Scope 3 **
  1. การใช้เชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ไอนน้ำ และ ความร้อน ได้แก่ ถ่านหิน ก๊าซทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม ถ่านกัมมันต์ ซึ่งเป็นของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม
  2. การใช้น้ำมันดีเซลในการเริ่ใจุดการเปาใหม้ในหม้อต้มไอน้ำ เครื่องจักรขนาดใหญ่ เครื่องผลิตไฟสำรอง ยานพาหนะการขนส่งภายใน เป็นต้น
  3. การใช้น้ำมันเบนซินในยานพาหนะ (เล็กน้อย)
  4. การใช้แคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) ในระบบการควบคุมคุณภาพอากาศ
  5. การใช้ก๊าซ SF6
  1. การซื้อไฟฟ้าจากภายนอก                                                   







 
  1. การซื้อสินค้าและบริการ : วัตถุดิบหลัก วัตถูดิบรอง บรรจุภัณฑ์





** รายการนอกเหนือจากนี้ ยังไม่ได้  รวมในการรับรองปี 2566
 

 ผลการทวนสอบปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร ปี 2566
          TRUBB ได้ดำเนินการจัดการข้อมูลแหล่งปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กรตั้งแต่ปี 2565 ตามแนวทางขององค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก และได้ดำเนินการทวนสอบข้อมูลของปี 2566 เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อการรับรองจากองค์กรบริหารก๊าซเรือนกระจก โดยปริมาณ คาร์บอนเทียบเท่า รายงานได้ดังนี้

ปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร (หน่วย : tCO2e)
 
 
2565 (Rebase)
2566
 
Note
Scope 1
786
1,016
* ปี 2565 : แก้ไขตัวเลขเนื่องจากมีการปรับ EF และขอบเขตการทวนสอบนับเฉพาะในกลุ่มน้ำยางข้นเท่านั้น
** ปี 2566 : เป็นปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเทียบเท่าขององค์กร ที่ได้รับการทวนสอบแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการขอรับรองจาก อบก.
Scope 2 6,663 6,324
Scope 3 - 13,074**
Total 7,449* 20,414**

 

นโยบายการดำเนินการจัดการพลังงาน   
  
          บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ  และการปฏิบัติตาม พรบ. การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน  พ.ศ.2535 (แก้ไข พ.ศ. 2550)       จึงได้กำหนดให้มีการดำเนินงานอนุรักษ์พลังงานภายในองค์กร  โดยให้ใช้พลังงานในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด   ประหยัดการใช้พลังงาน  ยังส่งผลให้บริษัทฯ สามารถลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจก  มีส่วนช่วยสนับสนุนความยั่งยืนให้กับองค์กร และตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาความยั่งยืนสากล ในข้อ 7 Affordable and Clean Energy, ข้อ 12 Responsible Consumption and Production และ ข้อ 13 Climate Action   และด้วยนโยบายฉบับนี้ บริษัทฯ จึงขอประกาศแนวทางการดำเนินงานการบริหารจัดการ การอนุรักษ์พลังงาน 
     

 
 
  1. ดำเนินการพัฒนาระบบการจัดการพลังงานอย่างเหมาะสม โดยกำหนดให้การอนุรักษ์พลังงานเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานขององค์กร เพื่อให้พนักงานทุกคนมีวัฒนธรรมในการอนุรักษ์พลังงาน
  2. ดำเนินการบำรุงรักษาและปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรอย่างต่อเนื่อง และสรรหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับธุรกิจ เพื่อลดการใช้ทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไปและมุ่งเน้นการใช้พลังงานทดแทน
  3. กำหนดแผนและเป้าหมายการอนุรักษ์พลังงาน พร้อมทั้งทบทวนและปรับปรุงนโยบาย  เป้าหมาย และแผนการดำเนินงาน และรายงานผลการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการและอนุรักษ์พลังงานทุกปี
  4. มอบหมายให้การอนุรักษ์พลังงาน เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ ทุกระดับและทุกคน ในการให้ความร่วมมือในการดำเนินงาน รวมถึงส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงาน
  5. ให้การสนับสนุนด้านบุคลากร งบประมาณ เวลาในการทำงาน การฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการและการอนุรักษ์พลังงาน
  6. มุ่งมั่นปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์พลังงานและการจัดการพลังงาน
กิจกรรมที่สำคัญในด้านการจัดการพลังงานดำเนินการในปี 2566
  1. โครงการใช้พลังงานแสงอาทิตย์จาก Solar Cell ทดแทนพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิล
  2. โครงการ เปลี่ยน ปรังปรุง เครื่องจักร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และ การใช้พลังงานลดลง
  3. กิจกรรมอื่น ๆ ในองค์กร ที่จะช่วยสร้างความตระหนักรู้ให้กับพนักงานเพื่อให้มีส่วนร่วมในการ ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในธุรกิจ
ผลการดำเนินงานด้านการจัดการพลังงาน
 
การใช้พลังงาน ผลการดำเนินงาน
ปี 2565
ผลการดำเนินงาน
ปี 2566
ปริมาณการใช้ไฟฟ้า (kWh) 13,329,539 12,650,312
ปริมาณการใช้ไฟฟ้าต่อหน่วย (kWh / หน่วย) 101 110
ปริมาณการใช้เชื้อเพลิง (Kg) 66,309 126.336
ปริมาณการใช้เชื้อเพลิงต่อหน่วย (Kg / หน่วย) 2.00 2.34
ปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง (Litr) 251,437 223,235
ปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงต่อหนน่วย (Kg / หน่วย) 2.23 2.23
ปรับปรุง ณ วันที่ 2/5/2024

การจัดการทรัพยากรน้ำ     
 
          ในการผลิตน้ำยางข้น "น้ำ" เป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญมากในกระบวนการผลิต เมื่อโลกต้องเผชิญกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงทำให้เกิดภาวะความแห้งแล้ง ขาดแคลนทรัพยากรน้ำ บริษัทฯ จึงได้กำหนดแนวทางการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน โดยยึดหลัก 3Rs กำกับดูแลกาารใช้ทรัพยากรน้ำให้มีประสิทธิภาพที่สุด จัดหามาตรการป้องกันและลดผลกระทบอย่างมีประสิทธิภาพ
เป้าหมาย
  • ลดกาารใช้ทรัพยากรน้ำ ร้อยละ 8 ภายในปี 2573
  • ไม่มีความเสี่ยงด้านทรัพยากรน้ำขาดแคลน
  • หมุนเวียนใช้น้ำภายใน 100%
  • ไม่ปล่อยน้ำลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ

แนวทางการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน โดยใช้หลัก Reduce, Reuse, Recycle
 
 การจัดการน้ำดี
  • การสร้างแหล่งสำรองน้ำดิบ เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ยามเกิดวิกฤตภาวะขาดแคลนน้ำ
  • ติดตามสถานการณ์น้ำ ประเมินความเสี่ยงด้านทรัพยากรน้ำขาดแคลน
  • ลดปริมาณการดึงน้ำดิบมาใช้ บำบัดน้ำหมุ่นเวียนใช้ในโรงงาน
  • การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด
  • ควบคุม ติดตามการใช้ปริมาณน้ำดิบ เพื่อการผลิต
การจัดการน้ำเสีย
  • การควบคุมดูแลให้จัดการน้ำเสีย ให้ได้ค่ามาตรฐานตามกฎหมาย และข้อบังคับ ด้านสิ่งแวดล้อม
  • บำบัดน้ำเสีย มุ่งเน้นการหมุนเวียนนำกลับมาใช้ประโยชน์ภายในโรงงาน
  • ไม่ปล่อยน้ำสู่แหล่งน้ำชุมชน 100%
  • ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบำบัดทรัพยากรน้ำ
ชุมชนสัมพันธ์
  • สร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกเพื่อดูแลรักษาแหล่งน้ำโดยรอบพื้นที่โรงงาน
  • ประสานงานกับชุมชนท้องถิ่น ให้การสนับสนุนพัฒนาปรับปรุงแหล่งน้ำชุมชน

ผลการดำเนินงานด้านดารจัดการน้ำ
 
การใช้น้ำ ผลการดำเนินงานปี 2565 ผลการดำเนินงานปี 2566
ปริมาณการใช้น้ำ (คิว) 372,206 348,869
ปริมาณการใช้น้ำต่อหน่วย (คิว/หน่วย) 1.55 1.50

การจัดการน้ำเสีย
 
  แนวทางการดำเนินงาน                      


 
  • ตรวจสอบและควบคุมระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอเพื่อให้คุณภาพน้ำทิ้งอยู่ในเกณฑ์ที่มาตรฐานกำหนด
  • พัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อให้สามารถหมุนเวียนน้ำกลับมาใช้ใหม่ได้มากที่สุด
  • นำน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วไปใช้ในการรดน้ำในสวนยางของบริษัท
  ผลการดำเนินงาน

 
  • บำบัดน้ำเสียจากโรงงาน ได้คุณภาพน้ำทิ้งตามมาตรฐานที่กรมโรงงานอุสาหกรรมกำหนดและผ่านการตรวจสอบจากสำนักอุตสาหกรรมจังหวัด
  • นำน้ำที่บำบัดแล้ว กลับใช้ประโยชน์ เช่นการทำความสะอาดสถานที่ การรดน้ำต้นไม้ เป็นต้น

การประเมินความเสี่ยงด้านทรัพยากรน้ำ ปี 2566

          TRUBB ได้พัมฯาแหล่งเก็บน้ำเพื่อรองรับน้ำฝน หรือ น้ำผิงดิน ที่สามารถรองรับการผลิตได้ตลอดทั้งปี และ บริษัทฯ ได้ประเมินความเสี่ยงเรื่องน้ำโดยใช้เครื่องมือแผนที่ความเสี่ยงน้ำ Water Risk Filter จาก WWF โดยผลประเมินพบว่า

ภาคใต้ - ไม่มีความเสี่ยง
  • สาขาหาดใหญ่
  • สาขาสุราษฎร์
ภาคเหนือ - มีความเสี่ยงปานกลาง
  • สาขาเชียงราย
ภาคตะวันออก - มีความเสี่ยงปานกลาง
  • สาขาชลบุรี
  • สาขาระยอง
          จากแหล่งน้ำที่ TRUBB ได้เตรียมไว้สำหรับภาคเหนือ และภาคตะวันออก ยังมีเพียงพอสำหรับผลิตสินค้าได้ตามกำลังการผลิต อย่างเต็มที่ 
*** สรุปได้ว่า TRUBB ไม่มีความเสี่ยงเรื่องการขาดแคลนทรัพยากรน้ำ ***

โครงการเพื่อการบริหารจัดการน้ำ
          การบริหารความเสี่ยงเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกคนในองค์กรที่จะช่วยให้การบริหารงานและการตัดสินใจด้านต่างๆ ตลอดจนการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ และลดการสูญเสียและโอกาสที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่องค์กรและชุมชนโดยรอบโรงงาน “น้ำ” เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในกระบวนการผลิตที่จะทำให้ TRUBB สามารถประกอบกิจการได้อย่างยั่งยืน ป้องกันปัญหาขาดแคลนน้ำรวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อชุมชนโดยรอบ TRUBB เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงกำหนดแผนการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านน้ำ มุ่งเน้นให้บรรุลุเป้าหมาย “มีน้ำเพียงพอต่อการผลิตทั้งในปัจจุบันและอนาคต” ผ่านโครงการลด/ควบคุมการใช้น้ำและโครงการดึงน้ำกลับมาใช้ใหม่โดยมีแนวทางในการบริหารจัดการน้ำดังนี้
  1. บริหารจัดการน้ำให้มีการใช้น้ำอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด ลดความเสี่ยงด้านน้ำ ด้วยการบริหารจัดการน้ำ โดยการควบคุมการใช้น้ำในกระบวนการผลิต ลดปริมาณการดึงน้ำจากแหล่งชุมชนมาใช้ จัดเตรียมแหล่งน้ำสำรองในกรณีเกิดภัยแล้ง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อชุมชน และติดตามตรวจสอบสถานการณ์น้ำของชุมชนอย่างสม่ำเสมอ
  2. บำบัดน้ำทิ้งให้ได้คุณภาพ และหมุนเวียนน้ำกลับมาใช้ใหม่ บำบัดน้ำทิ้งให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานกำหนด ติดตามปริมาณและคุณภาพน้ำ ที่ปล่อยออกให้เป็นไปตามกฎหมาย รวมไปถึงการนำน้ำในระบวนการผลิตนำกลับมาใช้หมุนเวียนใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
  3. พัฒนาบุคลากรให้ตระหนักและเห็นคุณค่าของการใช้น้ำ จัดอบรมให้ความรู้พนักงาน ประเมินความเสี่ยงด้านน้ำทั้งภายในและภายนอกโรงงานอย่างสม่ำเสมอ ประชุมหาแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านน้ำ ติดตามผลการดำเนินงานด้านการใช้น้ำและจัดทำรายงานการการบริหารจัดการน้ำเป็นประจำทุกปี
โครงการควบคุมการใช้น้ำ
  • วางแผนบริหารจัดการน้ำ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด2573
  • วางแผนการบริหารจัดการน้ำ ให้เพียงพอต่อความต้องการ
  • การควบคุมการใชน้ำในการผลิต
  • ตรวจสอบมิเตอร์น้ำ วาล์วน้า ท่อน้า ทุกจุดไม่ให้รั่วไหล
  • ประชุม/อบรมพนักงานให้ตระหนักถึงคุณค่าการใช้น้ำ
  • ติดตามผลการดำเนินงานควบคุมการใชน้ำในแต่ละเดือน


 
โครงการดึงน้ำกลับมาใช้ใหม่
  1. บริหารจัดการน้ำให้มีการใช้น้ำอย่างเกดิประโยชน์สูงสุด
  2. บริหารจัดการน้ำโดยการพัฒนาบุคคลให้ตระหนักและเห็นคุณค่าของการใช้น้ำ
  3. บริหารจัดการน้ำโดยการบำบัดน้ำทิ้งให้ได้คุณภาพ และหมุนเวียนน้ำกลบัมาใช้ใหม่


การจัดการขยะและของเสีย     
 
         ขยะและของเสียที่เกิดขึ้นจากดำเนินธุรกิจ เป็นภาระความรับผิชอบที่ TRUBB ต้องบริหารจัดการให้ถูกต้องตามข้อกฎหมาย ซึ่งขยะและของเสียที่เกิดขึ้นในการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจของ TRUBB จำแนกได้เป็น 3 ประเภท ที่ต้องมีการบริหารจัดการให้ถูกต้อง ก่อนนำออไปกำจัดนอกโรงงานดังนี้
  1. ขยะมีพิษ จากการผลิตน้ำยางข้นและสกิม ได้แก่ กากขี้แป้งยางพารา และ บรรจุภัณฑ์ของเคมีภัณฑ์ต่าง ๆ
  2. ขยะไม่มีพิษ ได้แก่ ขยะในครัวเรือน
  3. น้ำเสียจากการผลิต ได้แก่ น้ำเสีย และกากตะกอนบ่อบำบัด
 
การจัดการขยะและของเสีย
 วัตถุประสงค์ 
      ลดปริมาณขยะและของเสียจากการดำเนินธุรกิจ นำทรัพยากรที่มีอยู่กลับมาใช้ใหม่ ลดผลกระทบเชิงลบจากขยะและของเสีย ที่อาจสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชุมชนและสังคม
 เป้าหมาย
          2573 : ขยะฝังกลบเป็นศูนย์



 
แนวทางการดำเนินงาน
  • รณรงค์ให้พนักงานตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากขยะ ของเสีย และ มลพิษ
  • ยึดหลักการจัดขยะ 3 R (Reduce, Reuse, Recycle) เพื่อให้เกิดขยะและของเสียน้อย
  • ปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อให้เกิดของเสียน่้อยที่สุด
  • จัดการของเสียอันตรายตามที่กฎหมายกำหนด ตั้งแต่การจัดเก็บถายใน จนถึง การนำออกไปกำจัดภายนอกโรงงาน
  • มีการติดตั้ง ควบคุม ตรวจสอบ ระบบการจัดการน้ำเสียสม่ำเสมอ ไม่ปล่อยน้ำลงสู่สาณารณะ
  • จัดทำรายงานการคัดแยกขยะแต่ละประเภท และการนำไปใช้ประโยชน์
ตารางกำจัดขยะและของเสียในแต่ละประเภท
รายการขยะ  ของเสีย
การจัดการ
     ขยะอันตรายที่ต้องกำจัดตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
     ขยะอันตรายที่เกิดจากการผลิตสินค้าประเภท กากขี้แป้งยางพารา และ กากตะกอนบ่อบำบัด
  • รวบรวมและส่งไปตามจุดที่รับกำจัดขยะอันตราย ที่ได้รับการรับรองจากกฎหมายอย่างถูกต้ง
     ขยะอันตราย ประเภทบรรจุภัณฑ์สารเคมีต่าง ๆ
  • รวบรวมและส่งไปตามจุดที่รับกำจัดขยะอันตราย ที่ได้รับการรับรองจากกฎหมายอย่างถูกต้ง
ขยะไม่อันตราย
     ขยะ Recycle ไม่ได้
  • นำส่งให้เทศบาลกำจัดโดยการฝังกลบ หรือเผา ขึ้นอยู่กับความพร้อมในการรองรับการจัดการขยะในแต่ละพื้นที่
     ขยะ Recycle
  • นำไปบริจาคเพื่อจัดทำโครงการผ้าป่าขยะร่วมกับชุมชน หรือนำออกขายเพื่อส่งต่อให้ผู้ซื้อไป Recycle
  • นำกลับมาใช้ใหม่ในโรงงาน เช่น ขวดเครื่องดิ่ม ใช้เป็นอุปกรณ์สำหรับตรวจความเข้มข้นน้ำยาง หรือ อุปกรณ์ชำระล้างอุปกรณ์ในโรงงาน
     ขยะเศษอาหาร ขยะอืนทรีย์ ขยะเปียก
  • นำไปเสี้ยงสัตว์ ทำกรีนโคน เพื่อทำเป็นปุ๋ยหมัก
  • รวบรวม และนำส่งให้เทศบาล

          TRUBB ได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลปริมาณขยะแบบแยกประเภทโดยให้เจ้าหน้าบันทึกข้อมูลเป็นประจำทุกเดือนเพื่อเก็บบันทึกสถิติและนำมาใช้วิเคราะห์วางแผนกิจกรรมในการลดขยะเพื่อมุ่งสู่ Zero Waste To Landifill ต่อไป
โครงการทิ้งทูแทรช
          ในปี 2566 TRUBB ไดเเข้าร่วมโครงการ ทิ้ง ทู แทรช จัดโดยสมาคมบริษัทจดทะเบียนและบริษัท คิดคิด จำกัด เพื่อกระตุ้นและปลูกฝังจิตสำนึกในการจักการขยะให้แก่พนักงาน โดยเริ่มต้นจากการคัดแยกขยะและยึดตามหลักการจัดการขยะ 3Rs เพื่อให้เกิดของเสียน้อยที่สุด โดยขยะที่คัดแยกได้แล้วจะมีการนำไปใช้ประโยชน์สูงสุด
 

การจัดการมลพิษทางอากาศ     
 
          ในกระบวนการผลิตน้ำยางข้นและยางสกิม การใช้ความร้อนและการผสมสารเคมีเป็นขั้นตอนที่อยู่ในขั้นตอนการผลิต ซึ่ง TRUBB ให้ความสำคัญกับคุณภาพอากาศที่ปล่อยออกสู่สาธารณะ และควบคุมกลิ่นของสารเคมีไม่ให้มีผลกระทบต่อชุมชนรอบโรงงานโดยมุ่งเน้นการจัดการควบคุมคุณภาพอากาศทั้งภายในและภายนอกโรงงาน ตลอดจนตรวจวัด ติดตามคุณภาพอากาศอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าการผลิตสินค้า TRUBB ไม่มีมลพิษส่งผลกระทบต่อสังคม ตามที่กฎหมายกำหนด

แนวทางในการจัดการมลพิษทางอากาศ 
  • ใช้ถังดักกลิ่นแอมโมเนีย Ammonia Pack Tower เพื่อใช้ดักกลิ่นแอมโมเนียไม่ให้ส่งกลิ่นในส่วนของยางสกิมมีการใช้ระบบบำบัดกลิ่นแบบ Wet scrubber เพื่อลดกลิ่นจากกระบวนการอบยางสกิม
  • ใช้ระบบ Wet scrubber เพื่อดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กทั้ง PM 10 และ PM25 จากหม้อไอน้ำ (boilers) ก่อนระบายออกสู่อากาศ
  • จัดการอาคารผลิตน้ำยางข้นและสกิมเป็นแบบระบบปิด เพื่อป้องกันกลิ่นรบกวนออกสู่ภายนอกโรงงาน
  • ติดตั้งเครื่องมือวัดทิศทางลม ตลอดจนดำเนินการติดตาม ตรวจวัดเป็นประจำปี
  • มีการประเมินความเสี่ยงจากมลพิษทางอากาศ และกลิ่นรบกวน เพื่อดำเนินการป้องกันความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับชุมชนโดยรอบโรงงาน
     
 เป้าหมาย
  • คุณภาพทางอากาศจากปล่องระบายผ่านค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศตามที่กฎหมายกำหนด
  • ไม่มีข้อร้องเรียนด้านกลิ่นไม่พึงประสงค์จากชุมชนรอบโรงงาน
ผลการดำเนินงานปี 2566
  • ได้คุณภาพตามที่กฎหมายกำหนด
  • ไม่มีข้อร้องเรียนจากชุมชน

สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง     
 
          กาารเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเกิดขึ้นตามธรรมชาติตลอดเวลาและในปัจจุบันสภาพภูมิอากาศมีความผันผวนมากขึ้นเกินกว่าจะคาดการณ์ได้ ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่อย่างยั่งยืนของมนุษย์และความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลก ปัจจัยหลักมาจากพฤติกรรมของมนุษย์ที่มีการใช้ทรัพยากรมากเกินไปจนทำให้เกิดความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติประกอบกับภาคการผลิตมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากทำให้โลกเสียสมดุล และร้อนขึ้นทุกปี เรื่องสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงจึงเป็นประเด็นสำคัญที่ทั่วโลกต้องให้ความร่วมมือโดยทางสหประชาาติได้กำหนดเป้าหมายร่วมกันในการควบคุมการเพิ่มของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซีสภายในปี 2573 โดยตั้งเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกในระดับสหประชาชาติ -45%  และวางเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2593
          ธุรกิจ TRUBB มียางพาราเป็นปัจจัยการผลิตหลักที่มีผลกระทบเป็นอย่างมากจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง TRUBB จึงได้วางแผนการรับมือกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง และเพิ่มความสามารถในการฟื้นตัว กรณีที่บริษัทฯได้รับผลกระทบดังกล่าว
 
  1. มีการบริหารจัดการความเสี่ยงจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่บยนแปลง โดยระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และมาตรการบรรเทาผลกระทบ
  2. มีการจัดการก๊าซเรือนกระจก จากการใช้พลังงานในการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจของ TRUBB ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานในการผลิต ตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบจนถึงการส่งมอบสินค้าให้ลูกค้า การบริหารจัดการขยะเศษอาหาร ซึ่งเป็นแหล่งของก๊าซเรือนกระจกเป็นต้น
การจัดการความเสี่ยงจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง
           ในปี 2566 TRUBB ได้ระบุความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับการเปล่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่สำคัญ และได้กำหนดมาตรการในการป้องกันผลกระทบ เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียมั่นใจว่า TRUBB มีความสามารถในการรับมือกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ โดย TRUBB ได้ระบุความเสี่ยงและมาตรการป้องกัน สรุปได้ดังนี้
 
ระบุความเสี่ยง มาตราการป้องกัน
ภัยแล้งที่มีผลกรทบต่อทรัพยากรน้ำขาดแคลน
     น้ำเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญ การขาดแคลนน้ำในกระบวนการผลิตอาจทำให้เกิดการหยุดชะงักขอกระบวนการผลิต มีผลผลิตไม่เพียงพอในการส่งมอบให้ลูกค้าตามสัญญา ทำให้ความน่าเชื่อถือในการธุรกิจลดลง การรับมือกับภัยแล้งอาจมีผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่ามีปริมาณน้ำเพียงพอรองรับการเดินเครื่องการผลิตรวมถึงโครงการต่าง ๆ ในอนาคต



 
  • ติดตาม และประเมินความเสี่ยงด้านทรัพยากรน้ำในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง กำหนดแผนการรับมือและแผนบริหารความเสี่ยงต่อเนื่องทางธุรกิจ ในกรณีที่เกิดภาวะน้ำแล้ง            
  • เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำในกระบวนการผลิต นำน้ำกลับมาหมุนเวียนใช้ประโยชน์ (Renewable Water) ปรับปรุงเทคโนโลยีการปรับปรุงน้ำให้พร้อมใช้ ระบุแหล่งน้ำสำรองที่สามารถผันน้ำเข้ามาใช้ผลิตได้ทันที
  • ร่วมมีบทบาทกับชุมชนในการจัดการแหล่งส่งน้ำในพื้นที่รอบ ๆ โรงงาน เพื่่อให้มีน้ำเพียงพอในการผลิต และ ชุมชนก็มีน้ำใช้เช่นกัน
ภัยแล้งหรือฝนตกมากเกินไปมีผลกระทบต่อปริมาณน้ำยางดิบ
     ภัยแล้งทำให้น้ำยางดิบที่เกษตรกรกรีดได้มีปริมาณลดลง หรือฝนตกมากเกินไป ก็เป็นอุปสรรคในการกรีดยางได้น้อยเช่นกัน ซึ่งมีผลกระทบต่อปริมาณน้ำยางดิบ ซึ่งเป็นวัตถุดอบหลักที่จะนำมาผลิตน้ำยางข้น ส่งผลให้ TRUBB อาจไม่บรรลุเป้าหมายด้านการขาย









 
 
  • ประเทศไทยปลูกยางพารากระจายทั้งประเทศ ทั้งในภาคใต้ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคเหนือ ซึ่ง TRUBB มีโรงงานผลิตน้ำยางข้น กระจายตามภูมิจำนวน 5 โรงงาน เพื่อรองรับผลผลิตน้ำยางดิบจากเกษตรกรทุกภาค เช่นเดียวกัน อีกทั้ง TRUBB  ยังมีพันธมิตร OEM ที่พร้อม
  • TRUBB มีโรงงานผลิตน้ำยางข้นคั้งอยู่ในภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออก ซึ่งสามารถผลิตทดแทนกันได้ทันที เป็นแผนการกระจายความเสี่ยงที่บริษัทฯ กำหนดไว้
  • TRUBB  กำหนดกลยุทธด้านนวัตกรรม ที่สามารถผลิตยางพาราที่มีคุณภาพดียิ่งขึ้นโดยใช้ปริมาณน้ำยางน้อยลง แต่มีคุณสมบัติที่คงทนมากขึ้น เพื่อใช้น้ำยางดิบให้น้อยลง การเพิ่่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต และ เพิ่มคุณค่าของผลิตภัณฑ์ตลอดจนคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมรวมถึงการใช้พลังงานสะอาด
ความต้องการผลิตภัณฑ์รักษ์โลกสูงขึ้น
     ตลาดต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นมีความต้องการสินค้าที่เป็นออร์เกนิกส์ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ไม่ส่งเสริมการตัดไม้ทำลายป่า ส่งผลให้การบริหารจัดการของบริษัททีต้นทุนการผลิตที่ต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับกฎหมายกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น

     
     ตลาดต้องการสินค้าคาร์บอนต่ำ หรือไม่ปล่อยคาร์บอนเลย


 
  • ได้รับการรับรองสวนยางพารา FSC FM, FSC COC
  • ได้รับการรับรองสวนยาง Organics
  • น้ำยางข้น GOLS
  • ได้รับมาตรฐาน ISO 14001, 9001
 
  • วางแผนเข้าร่วมโครงการวางแผนการจัดการโครงการคาร์บอนเครดิตภาคสมัครใจ (Premiun T-VER) เพื่อเตรียมความพร้อมก้างเขาสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำ

 
 

กิจกรรมการส่งเสริมความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่พนักงาน

1. กิจกรรมอบรมให้ความรู้ โครงการคัดแยกขยะ “ทิ้ง ทู แทรช” 
          TRUBB มีนโยบายในการพัฒนาความยั่งยืนขององค์กร ให้เป็นไปตามหลักสากล และหนึ่งในเรื่องที่สำคัญที่มีผลกระทบกับความยั่งยืน คือภาวะโลกร้อนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี โดยสาเหตุหลักมาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกการดำเนินธุรกิจของทุกภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจ TRUBB ตระหนักถึงประเด็นดังกล่าวและได้กำหนดกลยุทธ์การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งขยะเป็นตัวแปรสำคัญอีกประเภทหนึ่งที่ทำให้เกิดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เนื่องจากขยะที่เกิดขึ้นไม่มีการคัดแยกและปลายทางส่งไปที่หลุมฝังกลบทำให้เกิดแก๊สมีเทนที่เป็นหนึ่งในแก๊สเรือนกระจกที่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศโลก TRUBB ได้วางแผนการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการขยะ และเข้าร่วมกับสมาคมบริษัทจดทะเบียนดำเนินงานภายใต้โครงการคัดแยกขยะ “ทิ้ง ทู แทรช” (Ting To Trash)  โดยมีผู้เข้าร่วม ได้แก่ ผู้บริหาร และ พนักงาน (สำนักงานและโรงงาน) ที่ลงทะเบียนเข้าร่วม เพื่อกระตุ้น และปลูกฝังจิตสำนึก ในการจัดการขยะให้แก่พนักงาน โดยเริ่มต้นจากการคัดแยกขยะและยึดตามหลักการจัดการขยะ 3Rs เพื่อให้เกิดของเสียน้อยที่สุดโดยขยะที่คัดแยกได้แล้วจะมีการนำไปใช้ประโยชน์สูงสุดต่อไป
                 โดยแบ่งการอบรมออกเป็น 3 ช่วง ตามเวลาที่ผู้เข้าอบรมสะดวก ดังนี้
  • รุ่น 1 วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.30-11.30 น. จำนวน 91 คน
  • รุ่น 2 วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 เวลา 13.30-15.30 น. จำนวน 67 คน
  • รุ่น 3 วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.30-11.30 น. จำนวน 28 คน

2. กิจกรรมอบรมโครงการรณรงค์ให้พนักงานมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์พลังงานและใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า
          TRUBB ตระหนักถึงปัญหาในการบริหารจัดการทรัพยากร ซึ่งมีการกำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมมุ่งเน้นให้ทุกคนในองค์กรมีส่วนร่วมและสร้างวัฒนธรรมในการอนุรักษ์พลังงาน จึงได้มีการจัดอบรมให้ความรู้และติดป้ายประชาสัมพันธ์ในการอนุรักษ์พลังงาน โดยมีผู้เข้าร่วม ได้แก่ พนักงานในดรงงานเพื่อสร้างความรู้และปลูกฝังจิตสำนึก ในการการอนุรักษ์พลังงานและใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติต่อไป